เล่นหุ้นอย่างพอเพียง - โดย : ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
หน้า 1 จาก 1
เล่นหุ้นอย่างพอเพียง - โดย : ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
เล่นหุ้นอย่างพอเพียง - โดย : ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
การขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดเงินตลาดทุนคึกคัก คนจำนวนไม่น้อย อยากเล่นหุ้น อยากลงทุน อยากรวย
โลกหมุนไปทุกวันไม่เคยหยุดนิ่ง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาไม่เคยมีความแน่นอน เศรษฐกิจมีรุ่งเรือง เฟื่องฟู มีซบเซามีตกต่ำ ใครจะคิดว่ายุคทองของสหรัฐอเมริกาจะจบสิ้นลงและศตวรรษแห่งเอเชีย (Asian Century) จะเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วจนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียได้กลายเป็นแกนหลักเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของโลก มีรายงานการศึกษาของธนาคารกลางเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank หรือ ADB) เรื่อง Asia 2050: Realizing the Asian Century เมื่อปี พ.ศ. 2554 เปิดเผยว่าศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของโลกคือ เอเชียโดยในปี พ.ศ. 2593 ขนาดเศรษฐกิจของเอเชียจะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 51% ของขนาดเศรษฐกิจของโลก ชาวเอเชียจะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้ทัดเทียมกับคนในประเทศแถบยุโรป ซึ่งประเทศหลัก 7 ประเทศที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซียและไทย
ปัจจัยเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้ในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเป็นช่วงขาขึ้น ตลาดการลงทุนทั้งตลาดเงินตลาดทุนคึกคัก มีสีสันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งดัชนีราคาตลาดและปริมาณการซื้อขายหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนได้เห็นสถิติใหม่ ได้เห็น New High ไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังมีหนังสือ มีบทความ และสื่ออีกสารพัดที่นำเสนอเรื่องราวของเศรษฐีหุ้น เซียนหุ้น ความตื่นเต้น เย้ายวน ความน่าสนใจของตลาดเงินตลาดทุนทำให้คนจำนวนไม่น้อย อยากเล่นหุ้น อยากลงทุน อยากรวย อยากเกษียณบนกองเงิน อยากมีเงินเป็นกอบเป็นกำ
ใครอยากลงทุนในตลาดหุ้นต้องไม่ลืมนึกถึงความเสี่ยงไว้เสมอ เพราะเหรียญมีสองด้าน เพราะผลตอบแทนมาคู่กับความเสี่ยงเสมอ อยากรวยอยากเล่นหุ้นก็ต้องรู้จักสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงให้ได้ เราได้เห็นตัวอย่างความล่มสลาย การขาดทุน การล้มละลายมากมายจากความไม่สมดุล การบริโภคเกินกำลัง การลงทุนเกินตัว อย่างวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือวิกฤติซับไพร์มที่เกิดขึ้นในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็เกิดจากความโลภ ความไม่รู้จักพอของผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆ ฝ่าย
ในขณะที่หลายคนเห็นความผันผวน ความหวือหวาของตลาดหุ้นก็ "กลัว" จนไม่กล้าลงทุน แต่ก็ "กังวล" ว่าเงินทองที่ฝากไว้ในธนาคารจะถูกเงินเฟ้อกัดกร่อน และจะมีเงินทองไม่พอใช้ในวัยเกษียณ
การลงทุนการเล่นหุ้นอย่างพอเพียง จึงเป็นทางออกของปัญหานี้ เพราะความพอเพียงจะช่วยสร้างความสมดุล ความพอเพียงจะทำให้เราลงทุนได้อย่างสมดุลไม่มากไปไม่น้อยไปแต่พอเหมาะพอดี ตามกำลัง ไม่โลภมากจนประมาทแต่ก็ไม่กลัวจนเสียโอกาส ใครอยากเล่นหุ้นอย่างพอเพียงหรืออยากลงทุนเพื่อให้ได้ดอกผลที่ยั่งยืนจึงต้องรู้จักประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเหมาะสม เล่นหุ้นอย่างพอเพียงเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยการสำรวจตัวเองให้แน่ใจว่าเราต้องการอะไร เรามีเงินเก็บเงินออมเงินสำรองเพียงพอแล้วหรือยัง เรามีเงินจะไปลงทุนเท่าไร การทำความรู้จักตัวเองให้ถ่องแท้จะทำให้เรารู้จักพอประมาณซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการลงทุนตามวิถีพอเพียง ถ้าเราเริ่มต้นลงทุนอย่างพอประมาณ ไม่กู้เงินมาลงทุน ไม่ใช้มาร์จินในการลงทุน หากเราพลาดพลั้งไป เราก็จะไม่เจ็บตัวมากนัก การเริ่มต้นอย่างพอเหมาะพอดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การตั้งเป้าหมายในการลงทุนอย่างชัดเจน เพราะเป้าหมายจะทำให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนในการที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ เป้าหมายจะสร้างพลังในการขับเคลื่อนการลงทุนของเราให้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง การลงทุนจะเป็นไปอย่างมีเหตุมีผล อยู่กับร่องกับรอยไม่ตื่นตูมหรือตื่นเต้นไปกับข่าวสารข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน เป้าหมายในการลงทุนโดยเฉพาะเป้าหมายระยะกลางและระยะยาวจะทำให้เราไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอทุกวัน ไม่ต้องลุ้นว่าหุ้นจะเขียวหรือจะแดง ต่างชาติจะซื้อหรือจะขาย รายใหญ่จะลากขึ้นหรือลากลง ใครจะติดดอยหรือจะขายหมู เราก็จะไม่ต้องสนใจมากนัก เป้าหมายจะทำให้เรามีเหตุมีผลในการใช้ชีวิตในการลงทุน
ส่วนภูมิคุ้มกันในการลงทุนก็ทำได้ไม่ยากเลย โดยการกันเงินตั้งกองทุนเงินออมเพื่อความมั่นคงขึ้นมาก่อนที่จะนำเงินส่วนที่เหลือไปเปิดพอร์ตสร้างความมั่งคั่ง เพื่อให้อบอุ่นใจได้ว่าหากผิดพลาดพลั้งไป ความมั่งคั่งอาจจะลดลงบ้างแต่ความมั่นคงทางการเงินจะยังอยู่
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ประโยคเตือนใจประโยคช่วยตอกย้ำให้เราต้องขวนขวายหาความรู้ในการลงทุน ให้เราคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ให้เรารู้จักระมัดระวัง รู้จักวางแผนการลงทุนให้ดี ให้เรารู้จักอดทนรอคอย ไม่ใจร้อน ที่สำคัญการลงทุนที่ดีต้องไม่เบียดเบียนตนเองคือไม่ทำให้เราต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ต้องทุกข์ใจกระวนกระวาย
นักลงทุนที่ลงทุนแล้วไม่มีความสุข วิตกกังวล ร้อนอกร้อนใจตลอดเวลาย่อมไม่ใช่นักลงทุนตามวิถีพอเพียงอย่างแน่นอน
การขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดเงินตลาดทุนคึกคัก คนจำนวนไม่น้อย อยากเล่นหุ้น อยากลงทุน อยากรวย
โลกหมุนไปทุกวันไม่เคยหยุดนิ่ง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาไม่เคยมีความแน่นอน เศรษฐกิจมีรุ่งเรือง เฟื่องฟู มีซบเซามีตกต่ำ ใครจะคิดว่ายุคทองของสหรัฐอเมริกาจะจบสิ้นลงและศตวรรษแห่งเอเชีย (Asian Century) จะเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วจนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียได้กลายเป็นแกนหลักเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของโลก มีรายงานการศึกษาของธนาคารกลางเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank หรือ ADB) เรื่อง Asia 2050: Realizing the Asian Century เมื่อปี พ.ศ. 2554 เปิดเผยว่าศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของโลกคือ เอเชียโดยในปี พ.ศ. 2593 ขนาดเศรษฐกิจของเอเชียจะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 51% ของขนาดเศรษฐกิจของโลก ชาวเอเชียจะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้ทัดเทียมกับคนในประเทศแถบยุโรป ซึ่งประเทศหลัก 7 ประเทศที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซียและไทย
ปัจจัยเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้ในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเป็นช่วงขาขึ้น ตลาดการลงทุนทั้งตลาดเงินตลาดทุนคึกคัก มีสีสันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งดัชนีราคาตลาดและปริมาณการซื้อขายหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนได้เห็นสถิติใหม่ ได้เห็น New High ไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังมีหนังสือ มีบทความ และสื่ออีกสารพัดที่นำเสนอเรื่องราวของเศรษฐีหุ้น เซียนหุ้น ความตื่นเต้น เย้ายวน ความน่าสนใจของตลาดเงินตลาดทุนทำให้คนจำนวนไม่น้อย อยากเล่นหุ้น อยากลงทุน อยากรวย อยากเกษียณบนกองเงิน อยากมีเงินเป็นกอบเป็นกำ
ใครอยากลงทุนในตลาดหุ้นต้องไม่ลืมนึกถึงความเสี่ยงไว้เสมอ เพราะเหรียญมีสองด้าน เพราะผลตอบแทนมาคู่กับความเสี่ยงเสมอ อยากรวยอยากเล่นหุ้นก็ต้องรู้จักสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงให้ได้ เราได้เห็นตัวอย่างความล่มสลาย การขาดทุน การล้มละลายมากมายจากความไม่สมดุล การบริโภคเกินกำลัง การลงทุนเกินตัว อย่างวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือวิกฤติซับไพร์มที่เกิดขึ้นในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็เกิดจากความโลภ ความไม่รู้จักพอของผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆ ฝ่าย
ในขณะที่หลายคนเห็นความผันผวน ความหวือหวาของตลาดหุ้นก็ "กลัว" จนไม่กล้าลงทุน แต่ก็ "กังวล" ว่าเงินทองที่ฝากไว้ในธนาคารจะถูกเงินเฟ้อกัดกร่อน และจะมีเงินทองไม่พอใช้ในวัยเกษียณ
การลงทุนการเล่นหุ้นอย่างพอเพียง จึงเป็นทางออกของปัญหานี้ เพราะความพอเพียงจะช่วยสร้างความสมดุล ความพอเพียงจะทำให้เราลงทุนได้อย่างสมดุลไม่มากไปไม่น้อยไปแต่พอเหมาะพอดี ตามกำลัง ไม่โลภมากจนประมาทแต่ก็ไม่กลัวจนเสียโอกาส ใครอยากเล่นหุ้นอย่างพอเพียงหรืออยากลงทุนเพื่อให้ได้ดอกผลที่ยั่งยืนจึงต้องรู้จักประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเหมาะสม เล่นหุ้นอย่างพอเพียงเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยการสำรวจตัวเองให้แน่ใจว่าเราต้องการอะไร เรามีเงินเก็บเงินออมเงินสำรองเพียงพอแล้วหรือยัง เรามีเงินจะไปลงทุนเท่าไร การทำความรู้จักตัวเองให้ถ่องแท้จะทำให้เรารู้จักพอประมาณซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการลงทุนตามวิถีพอเพียง ถ้าเราเริ่มต้นลงทุนอย่างพอประมาณ ไม่กู้เงินมาลงทุน ไม่ใช้มาร์จินในการลงทุน หากเราพลาดพลั้งไป เราก็จะไม่เจ็บตัวมากนัก การเริ่มต้นอย่างพอเหมาะพอดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การตั้งเป้าหมายในการลงทุนอย่างชัดเจน เพราะเป้าหมายจะทำให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนในการที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ เป้าหมายจะสร้างพลังในการขับเคลื่อนการลงทุนของเราให้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง การลงทุนจะเป็นไปอย่างมีเหตุมีผล อยู่กับร่องกับรอยไม่ตื่นตูมหรือตื่นเต้นไปกับข่าวสารข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน เป้าหมายในการลงทุนโดยเฉพาะเป้าหมายระยะกลางและระยะยาวจะทำให้เราไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอทุกวัน ไม่ต้องลุ้นว่าหุ้นจะเขียวหรือจะแดง ต่างชาติจะซื้อหรือจะขาย รายใหญ่จะลากขึ้นหรือลากลง ใครจะติดดอยหรือจะขายหมู เราก็จะไม่ต้องสนใจมากนัก เป้าหมายจะทำให้เรามีเหตุมีผลในการใช้ชีวิตในการลงทุน
ส่วนภูมิคุ้มกันในการลงทุนก็ทำได้ไม่ยากเลย โดยการกันเงินตั้งกองทุนเงินออมเพื่อความมั่นคงขึ้นมาก่อนที่จะนำเงินส่วนที่เหลือไปเปิดพอร์ตสร้างความมั่งคั่ง เพื่อให้อบอุ่นใจได้ว่าหากผิดพลาดพลั้งไป ความมั่งคั่งอาจจะลดลงบ้างแต่ความมั่นคงทางการเงินจะยังอยู่
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ประโยคเตือนใจประโยคช่วยตอกย้ำให้เราต้องขวนขวายหาความรู้ในการลงทุน ให้เราคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ให้เรารู้จักระมัดระวัง รู้จักวางแผนการลงทุนให้ดี ให้เรารู้จักอดทนรอคอย ไม่ใจร้อน ที่สำคัญการลงทุนที่ดีต้องไม่เบียดเบียนตนเองคือไม่ทำให้เราต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ต้องทุกข์ใจกระวนกระวาย
นักลงทุนที่ลงทุนแล้วไม่มีความสุข วิตกกังวล ร้อนอกร้อนใจตลอดเวลาย่อมไม่ใช่นักลงทุนตามวิถีพอเพียงอย่างแน่นอน
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|
Tue Aug 20, 2013 10:34 pm by เม่าสราญรมย์
» [E-Book] รวมบทความ Out of my mind Value Investment
Fri Jun 21, 2013 2:11 pm by veebeer
» หนังสือเเจกฟรีของ set เป็นประวัติรวมๆ ของนักลงทุนชื่อดังหลายๆคนครับ บัฟเฟต จอห์น เนฟ ดันโด ดร.นิเวศ
Mon Jun 03, 2013 12:34 am by MR.Champkab
» CTHทุ่ม3พันล้านบุกตลาดบรอดแบนด์ เน็ตเร็ว50Mb-1Gbเริ่ม599บาท/เดือน
Sat Jun 01, 2013 1:57 pm by MR.Champkab
» ตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทย 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในอาเซียน
Tue May 28, 2013 3:54 pm by เม่าสราญรมย์
» เล่นหุ้นอย่างพอเพียง - โดย : ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
Tue May 28, 2013 3:30 pm by เม่าสราญรมย์
» AMC: บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน)
Tue May 28, 2013 9:02 am by เม่าสราญรมย์
» TVD บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน)
Tue May 28, 2013 8:49 am by เม่าสราญรมย์
» BLAND : บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน)
Tue May 28, 2013 8:34 am by เม่าสราญรมย์