[Summary] Rich Dad Serie: Retire Young Retire Rich - เกษียณเร็ว เกษียณรวย

[เม่าสราญรมย์]

บทคัดย่อของหนังสือ


พลังทวีของความซื่อสัตย์
ช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึงปี ค.ศ. 1989 ผลและคิมไม่มีรายได้จากทั้งสินทรัพย์หรือพอร์ตการลงทุนเลย พวกเราทำงานอย่าง
หนักเพื่อสร้างธุรกิจ เพื่อให้มีรายได้จากการทำงานมากขึ้น เงินทุกบาทที่เกิดขึ้นถูกนำกลับลงไปในการสร้างธุรกิจ เรารู้ว่ารายได้
ชนิดไหนที่เราต้องการ เรารู้ว่าเราต้องเปลี่ยนรายได้จากการทำงาน ให้เป็นรายได้จากสินทรัพย์และจากพอร์ตการลงทุน แต่รายได้
ทั้งสองก็ยังไม่ได้แสดงอะไรให้เราได้เห็น เมื่อเวลาผ่านไป ผมยังสามารถได้ยินคำพูดของพ่อรวยที่ว่า “เมื่อใดที่เธอเริ่มสร้างรายได้
จากสินทรัพย์และจากพอร์ตการลงทุนให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เมื่อนั้นชีวิตของเธอจะเริ่มเปลี่ยนไป และคำพูดก็จะกลายเป็นเนื้อ
หนังขึ้นมา”

เป็นมากกว่าแค่นิยาม
สำหรับคนที่เคยอ่านหนังสือ พ่อรวยสอนลูก คงพอจะจำกันได้ถึงความหมายที่แตกต่างที่พอทั้งสองมีต่อคำว่าสินทรัพย์
และหนี้สินพ่อผมคิดว่าเขารู้ความหมายของทั้งสองคำดีแล้ว จนทำให้ไม่เคยค้นหาความหมายของมันเลย แต่ถึงแม้ว่าพอผมจะได้
ค้นหาความหมายของมัน ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย เพราะนิยามส่วนใหญ่ที่มีอยู่ตามตำราไม่ได้อธิบายความแตกต่างของคำ

การควบคุมอำนาจของคำ
ทำไมคำศัพท์ต่าง ๆ ที่พูดถึงในตอนหลังจึงสำคัญกว่า ? คำตอบก็คือ เพราะคำเหล่านี้ อัตราส่วนพีอี แผนการนำเงินปัน
ผลไปลงทุนต่อ และมูลค่าตลาดของหุ้น จริง ๆ แล้วไม่ค่อยจะมีความสัมพันธ์ต่อตัวคุณสักเท่าไร โดยเฉพาะเมื่อคุณเพิ่งจะเริ่มต้น
ธุรกิจหรือลงทุน

อัตราส่วนที่ใช้ได้กับชีวิตของคุณ
ก็เหมือนกับอัตรส่วนพีอีที่สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อผู้บริหารของบริษัท คุณในฐานะของผู้จัดการของชีวิต
คุณเองก็จำเป็นต้องมีอัตราส่วนที่ใช้ได้กับชีวิตของคุณ ค่าอัตราส่วนต่อไปนี้เป็นค่าที่คุณควรติดตามดูแล ถ้าคุณต้องการที่จะเป็น
ผู้จัดการที่ดีขึ้นในชีวิตการเงินของตัวคุณเอง

รายได้จากสินทรัพย์และรายได้จากพอร์ตการลงทุน/รายจ่ายทั้งหมด

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีของนิทานโปรด

จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่หงส์
หลายต่อหลายครั้งที่ผลและคิมตกอับและต้องดำรงชีวิตด้วยเงินเพียงเล็กน้อย ผมมักจะหาสถานที่หนึ่งนั่งเงียบ ๆ และ
คอยฟังเสียพ่อรวยเล่นเรื่องราวของกระต่ายกับเต่า ผมยังจำคำพูดได้ว่า “หลายครั้งในชีวิตที่เธอเจอคนที่ฉลาดกว่าเร็วกว่า รวยกว่า
มีอำนาจมากกว่า และมีพรสวรรค์มากกว่าเธอ แต่การที่เขาออกนำไปก่อนไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่สามารถชนะ การแข่งขัน
ถ้าเธอยังคงรักษาความเชื่อมั่นในตัวเอง ทำในสิ่งที่ไม่มีคนอยากทำ และพยายามสร้างความคืบหน้าใมห้เป็นกิจวัตรประจำวัน ชัย
ชนะในสนามแข่งแห่งชีวิตจะเป็นของเธอ

คุณค่าของการเป็นลูกเป็นขี้เหร่
ในปี ค.ศ. 1968 ขณะที่กำลังยืนอยู่บนระเบียบเพนต์เฮ้าส์ พ่อรวยเตือนใจพอถึงนิทานอีกเรื่องมันเป็นนิทานที่ผมไม่เคย
ตระหนักว่ามีความหมายอย่างมากต่อพ่อรวย เพราะเขาไม่เคยเล่าให้ทั้งลูกชายเขาและผมฟังเมื่อตอนเรายังเด็ก “เธอเคยได้ยิน
เรื่องลูกเป็นขี้เหร่ไหม?” พ่อรวยถาม

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีของความเอื้อเฟื้อ

ใครกันแน่ที่โลภ?
พ่อรวยมีความเห็นต่างมุมมองออกไป พ่อรวยพูดเสมอว่า “คนเราต่างก็มีความโลภกันทั้งนั้น มันเป็นธรรมชาติที่คนเรา
ต้องการที่จะมีชีวิตรอด อย่างมีชีวิตที่ดีขึ้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอหลังจากที่เราพ้นวัยทำงานกันแล้วแต่ไม่จำเป็น
เสมอไปที่นักธุรกิจหรือคนรวยบางคนจะต้องมีความโลภมากกว่าคนอื่น อันที่จริงแล้ว มันอาจจะเป็นตรงกันข้ามเลยทีเดียวก็ได้” พ่อ
รวยยังพูดต่อว่า “เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่รวยนั้นตอบได้ง่ายมากก็คือ เพราะว่าพวกเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไม่เพียงพอ”

อำนาจของเครือข่าย
ผมพบกฎข้อหนึ่งที่เรียกว่ากฎของเม็ทคาลเฟ่ ที่พูดถึงเรื่องการก้าวกระโดดแบบควอนตัมหรือการสูงขึ้นแบบเอกซ์โพเนน
เชียลของความมั่งคั่ง โรเบิณ์ต เม็ทคาลเฟ่ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัททรีคอม ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตปาล์มไพล็อต กฎของเขากล่าว
อำนาจทางเศรษฐกิจของธุรกิจหนึ่งจะเท่ากับจำนวนของเครือข่ายยกกำลังสอง

หลักจากเกมเศรษฐี (Monopoly)
พ่อรวยมักจะพูดว่า “สูตรของความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่สามารถพบได้ในเกมเศรษฐี” หลายคนรู้จัดสูตรนี้ดี สูตรของการซื้อ
บ้านสีเขียว 4 หลัง แล้วสามารถแลกเป็นโรงแรมสีแดงได้ 1 หลัง สูตรของความมั่งคั่งในเกมเศรษฐีนี้ก็เป็นไปตามกฎของเม็ทคาลเฟ่
เหมือนกัน หากคุณเปรียบเทียบอัตราส่วนของพ่อจนของผมและพ่อรวย คุณก็คงจะเข้าใจได้ว่า ทำไมอำนาจทางเศรษฐีกิจของพ่อ
รวยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ของพ่อผมกลับคงอยู่เท่าเดิม

ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย
หลังจากที่เข้าใจในกฎของเม็ทคาลเฟ่ หรือกฎของเครือข่ายแล้ว ผมก็รู้ว่าทำไมองค์กรการตลาดแบบเครือข่ายจึงเสนอ
เครื่องมือที่มีพลังให้สำหรับกลุ่มคนอย่างผมและคุณ เมื่อนำกฎของเม็ทคาลเฟ่มาใช้กับธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย คุณคงเริ่มจะ
เห็นอำนาจในธุรกิจรูปแบบนี้

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีแห่งการกระทำ

ใคร ๆ ก็สามารถรวยได้หรือ?
ครั้งหนึ่งผมเคยถามพ่อรวยว่า ใคร ๆ ก็สามารถรวยได้จริงหรือ? คำตอบของพ่อครั้งหนึ่งผมเคยถามพ่อรวยก็คือ “จริง สิ่งที่
เราต้องทำเพื่อสร้างความรวยให้แก่ตัวเองไม่ใช่เรื่องยากในความเป็นจริงแล้วมันกลับเป็นเรื่องง่ายเสียอีก ปัญหาคือคนส่วนใหญ่มัก
ทำให้มันยากไปเอง มีคนหลายคนทำงานหนักตลอดชีวิตของพวกเขาแต่กลับมีความเป็นอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น พวกเขาลงทุนในสิ่งที่พวกเขาไม่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งนั้น ทำงานหนักเพื่อให้คนอื่นรวยแทนที่จะทำให้ตัวเองรวย และทำในสิ่งที่คน
ทั่วไปนิยมทำ แทนที่จะทำในสิ่งที่คนรวยนิยมทำ

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีแห่งนิสัย

พ่อรวยกล่าวว่า “มีนิสัยอยู่ 2 ประเภทคือ นิสัยที่สร้างความรวยและนิสัยที่สร้างความจน คนจนส่วนใหญ่จนเพราะเขามี
นิสัยสร้างความจน ถ้าลูกต้องการรวย สิ่งที่ลูกต้องทำคือฝึกตัวเองให้มีนิสัยสร้างความรวย”

ความสัมพันธ์ที่ดี
กระบวนการเลือกที่จะคิดอย่างไรมีความสัมพันธ์อย่างดีกับการเลือกที่จะรู้สึกอย่างไร ผมสังเกตว่า ผมรู้สึกแย่มากเมื่อผม
คิดถึงสิ่งทั้งหลายที่คิมภรรยาของผมไม่ได้ทำ และผมก็รู้สึกรักภรรยาของผมอย่างมากเมื่อคิดถึงทุกสิ่งที่ดี ๆ ที่เธอทำและสิ่งที่เราทำ
ร่วมกัน

คุณสามารถฝึกนิสัยเหล่านี้ได้หรือไม่
ก่อนที่จะกล่าวต่อไป ผมต้องการเน้นย้ำ ให้เห็นว่านิสัยพื้นฐานที่ผมเชื่อเหล่านี้มีความสำคัญอย่างไร มันเป็นนิสัยที่ง่าย ๆ
ที่ใครก็ตามที่มีอายุมากกว่า 18 ปีสามารถทำได้ แต่ถึงแม้ว่ามันจะง่าย มันจะง่าย ผมก็เชื่อว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ฝึกให้มันกลายเป็น
นิสัยได้

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีแห่งเงิน

ใครทำงานหนักกว่ากัน ตัวคุณหรือเงินของคุณ?
ข้อสังเกตของนักวิจารณ์ในโทรทัศน์ท่านหนึ่งสะดุดใจผมมาเป็นเวลาหลายปี แล้ว เขาบอกว่า “มีคนรวยจำนวนมาก
สามารถรวยขึ้นได้ในยามหุ้นตก คนเหล่านั้นรวยได้เพราะเขารู้จักจับจังหวะที่จะเข้าและออกจากตลาดหุ้น ผมรู้สึกเห็นใจคนที่
ทำงานกินเงินเดือนที่เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเขาต้องหายวับไปกับตาโดยไม่สามารถจะทำอะไรกับมันได้ เพราะเงินกองทุน
ของพวกเขานอนจมอยู่ในตลาดหุ้นอย่างไม่มีทางเลือก”

ใช้เงินให้ทำงานอย่างไม่มีการหยุดพัก
หนึ่งในกลยุทธ์ที่เราใช้เงินทำงานหมุนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งก็คือการซื้อทรัพย์สินที่สามารถให้คนอื่นเช่าได้ และ
ภายใน 1-2 ปี ยืมเงินมาจ่ายค่าเงินดาวน์และซื้อทรัพย์สินเพื่อให้เช่าชิ้นใหม่ต่ออีก

“ฉันต้องการเงินของฉันคืน”
ห้างค้าปลีกที่ฉลาดส่วนใหญ่ยอมให้คนที่ซื้อสินค้าไปแล้วสามารถนาของมาคืนได้หากพวกเข้าไม่พอใจกับสินค้านั้น
ปัญหาของวิธีนี้คือ เพื่อจะได้เงินคืนคุณต้องคืนของที่ซื้อไปก่อน ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด สิ่งที่คุณต้องการคือได้ทำเงินคืน
และสามารถเก็บของนั่นไว้ได้นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมรักการลงทุน ผมสามารถเก็บของที่ซื้อมารได้ในขณะที่ได้เงินคืน

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีแห่งอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนด้วยเงินของนายธนาคารของคุณ
เมื่อหลายคืนก่อน ผมได้ทานข้าวเย็นกับเพื่อนของผมและพ่อของเธอ พ่อของเธอเป็นนักบินที่เกษียณแล้วในวันนั้นตลาด
หุ่นเพิ่มตกลงอีก 3% และเขารู้สึกเสียใจมากเพราะว่าเขาสูญเสียเงินส่วนกำไรจากกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณของเขา เมื่อ
ผมถามเขาว่าเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับตลาด เขากลับตอบไปว่า “ลูกสาวอีกคนหนึ่งของผมเพิ่มโทรฯ มาบอกผมว่า ผมสามารถย้าย
เข้าไปอยู่กับเธอได้ถ้าผมหมดตัว

เราจะหาการลงทุนที่ดีได้อย่างไร
ผมมักได้รับคำถามบ่อย ๆ เกี่ยวกับการลงทุน “ผมจะหาอสังหาริมทรัพย์ที่ดี ๆเพื่อลงทุนได้อย่างไร” คำตอบของผมก็คือ
“คุณต้องเชื่อสิ่งที่สมองคุณเห็นในขณะที่คนอื่นมองไม่เห็น”

รางวัลที่คนอื่นพลาดที่จะได้รับ
ชาวประมงทุกคนมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “สิ่งหนึ่งที่จากไป” สำหรับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “สิ่งหนึ่งที่
เขาหรือเธอค้นพบซึ่งเป็นสิ่งที่คนอื่นหาไม่เจอ” สองเรื่องไปนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คุณเริ่มมอบหา 100 การลงทุนแรก

การเปลี่ยนแปลงกรอบความคิด
เรื่องที่สอง : ผมมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อเจฟ ผู้ซึ่งเป็นสถาปนิกทางด้านภูมิสถาปัตย์เขาเล่าให้ผมฟังเรื่องการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์ที่เยี่ยมมากซึ่งผมของนำมาส่งต่อให้คุณ ณ ที่นี้

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีแห่งสินทรัพย์ประเภทตราสาร

ลงทุนอย่างไรให้มีความเสี่ยงน้อยกว่าแต่ผลตอบแทนมากกว่า
ตอนนี้เขากลับไปทำงานแล้วเมื่อผมถามเขาว่าทำไมจึงสูญเสียไปมากเช่นนั้น เขาตอบว่า “ผมจะทำอย่างไรได้เล่า ผมทำ
ตามวิธีที่ที่ปรึกษาทางการเงินของผมแนะนำให้ทำคือ ซื้อหุ้นตัวที่กำลังราคาตก และผมก็ซื้อตาที่เขาบอกและขาดทุนลงไปทุกที
ตอนนี้ผมขาดทุนไปมากกว่า 1 ล้านเหรียญแล้ว ที่ปรึกษาคนเดิมของผมบอกให้ผมอยู่เฉยๆ เพราะนี่เป็นการลงทุนระยะยาว แต่ผม
รอได้อีกไม่กี่ปีแล้ว

สิ่งที่คุณต้องรู้
ถ้าคุณต้องการรักษามูลค่าของตราสารของคุณไว้ คุณต้องรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะป้องกันตราสารของคุณในกรณีที่ตลาดมีปัญหาได้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่คุณต้องรู้แน่นอนที่สุด มันเริ่มจากคำศัพท์

แนวโน้ม
นักลงทุนผู้ชาญฉลาดทุกคนต้องเข้าใจคำว่า “แนวโน้ม” มีการกล่าวไว้ว่านักลงทุนผู้ชาญฉลาดทุกคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “แนวโน้มคือเพื่อนของคุณ” กรุณาจำคำกล่าวนี้ไว้และนำมันมาใช้

การทำให้ผู้แพ้มีความสุข
1. มันใช้เวลามากเกินไป 2. มันเสี่ยงเกินไป
3. ผมไม่รู้เรื่องว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร 4. คุณทำไม่ได้หรอก มันผิดกฎหมาย
5. นายหน้าบอกผมว่า มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก 6. อะไรจะเกิดถ้าคุณคุดผิดหรือทำพลาด
7. คุณโกหก คุณทำไม่ได้หรอก

[เม่าสราญรมย์]

พลังทวีแห่งธุรกิจในด้าน B

เกมที่รวยที่สุดในโลก
เมื่อคุณมองกลับไปที่ประวัติศาสตร์เมื่อไม่น่านานมานี้ มีหลายคน เช่น บิล เกตส์ ไมเคิล เดลล์ โธมัส เฮนรี่ เท็ค เทอร์
เนอร์ จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์ และคนอื่นๆ ผู้ซึ่งมีรายชื่ออยู่ด้านบนของรายการของผู้ที่มีชื่อเสียงที่มาจากด้สน B มีอีกหลายคนที่
ไม่เป็นที่รู้จัก เข้าทั้งหมดกลายเป็นยักษ์ใหญ่ทางการเงินเพราะว่าเขาสร้างสินทรัพย์ที่เป็นยักษ์ใหญ่ เขาใช้พลังทวีทางการเงินที่ใหญ่
ที่สุด โดยการสร้างธุรกิจที่ให้บริการแก่คนเป็นล้าน ๆ คน

[เม่าสราญรมย์]

คำแนะนำยอดฮิต

สิ่งที่คนส่วนใหญ่สามารถทำเพื่อให้รวยเร็วและรวยได้ตลอดกาล
กระบวนการเพื่อการเกษียณเร็วและเกษียณรวยเป็นกระบวนการทางจิตใจและอารมณ์มากกว่ากระบวนการทางด้านร่างกาย หากคุณได้เตรียมใจและอารมณ์ไว้แล้ว คุณเพียงเตรียมร่างกายเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเท่านั้น สิ่งต่อไปนี้คือกระบวนการทางจิตใจและทางอารมณ์ที่คุณต้องนำมาหลอมรวมเข้ามาในชีวิตคุณให้มากขึ้น ถ้าคุณทำตามกระบวนการง่าย ๆ ที่แนะนำอย่างสม่ำเสมอและให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ผมมั่นใจว่าคุณจะพบว่าการเกษียณเร็วและเกษียณรวยจะเป็นไปได้มากขึ้นสำหรับคุณ

คำแนะนำสำหรับการรวยเร็ว
ในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก ผมได้เขียนเกี่ยวกับการที่พ่อรวยหักเงิน 10 % ต่อชั่วโมงของผมออก และเสนอโลกทัศน์ของเขาโลกทัศน์ที่ว่าผมสามารถรวยได้เร็วขึ้นและมารกขึ้นถ้าผมทำงานแบบไม่ได้ผลตอบแทน

[เม่าสราญรมย์]

ข้อสอบปลายภาค
ถ้าคุณให้เวลากับใครก็ตามที่จะตอบคำถามแต่ละคำถามอย่างเต็มที่จะตอบคำถามแต่ละคำถามอย่างเต็มที่ คุณจะได้ยินความจริงเหตุผล ข้ออ้าง การโกหก สมมติฐาน และคำพูดเชิงจิตวิทยาต่าง ๆ ที่คนเหล่านี้มีต่อการเงินและชีวิตของเขา คุณอาจได้ยินคำพูดเช่น”ช่างเป็นคำถามที่โง่จริง ๆ” “คุณคิดว่าคุณคือใคร” “คุณทำไม่ได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้ ฉันรักงานของฉัน ฉันจะไม่หยุดทำงาน แทนที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำตอบหรือคำวิจารณ์ที่มีต่อคำถาม ขอให้คุณฟังและพิจารณาดูคุณสามารถมองเห็นภาพที่คนคนนั้นมีต่อเงินหรือชีวิตทางการเงินของเขา ถ้าคุณทำแบบฝึกหัดกับคนอื่น ผมคิดว่าคุณจะเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับอำนาจของความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคนนั้นต่อชีวิตด้านการเงินของพวกเขา

ทำอย่างไรให้ยังคงก้าวต่อไป
ผมถูกถามอยู่บ่อย ๆ ว่า “หลังจากที่คุณตัดสินใจที่จะเกษียณเร็วแล้วอะไรทำให้คิมและคุณก้าวต่อไป คุณจัดการกับเรื่องร้าย ๆ ได้อย่างไร และทำอย่างไรเมื่อคุณเดือดร้อน” ส่วนใหญ่ ผมจะตอบด้วยสำนวนที่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ น่าเบื่อ เช่นให้คุณมีความแน่วแน่ ตั้งใจจริงและมีวิสัยทัศน์ ผมใช้คำเหล่านี้ซ้ำซากเพราะผมไม่มีเวลาอธิบายสิ่งที่ผมได้อธิบายในหสนังสือเล่มนี้แล้ว เนื่องจากว่าคุณได้อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว และหวังว่าคุณเข้าใจในสิ่งที่ผมเขียน ผมจะบอกคุณอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบังว่าอะไรทำให้เรายังคง
ก้าวต่อไป

[เม่าสราญรมย์]

บทปิดท้าย
ในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1994 คิมและผมไปพักผ่อนที่เกาะฟิจิ เพื่อนของผมแนะนำรีสอร์ทชั้นดีขนาดเล็ก ๆ บนเกาะส่วนตัวแห่งหนึ่ง ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นในเช้าวันหนึ่ง พนักงานโรงแรมเข้ามาทักทายเราที่กระท่อมอันหรูหราของ เรา “ม้าของคุณพร้อมแล้วครับ” เขาพูดเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม

เราได้อยู่บนเกาะนี้มา 5 วันแล้ว ในที่สุดผมก็ได้ผ่อนคลาย นอกตากอากาศ และทำตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติของเกาะสวรร์แสนสวยแห่งนี้ที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีน้ำเงินของมหาสมุทรแปซิฟิก มันเป็นเวลา 9 ปีมาแล้วที่ลาร์รี่ คิม และผมนั่งที่ภูเขาอันหนาวเย็นแห่งนั้น เมื่อผมนั่งบนอานม้าเรียบร้อยแล้ว ผมคิดถึงหลาย ๆสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เราไม่หนาวสั่นเพราะตอนนี้เรามีอิสรภาพแล้ว เราไม่ต้องทำงานแล้วสำหรับเวลาที่เหลือในชีวิต

หลังจากขี่ม้ามาได้ครึ่งชั่วโมง พนักงานโรงแรมก็เข้ามาควบคุมม้าและช่วยให้เราปีนลงมา ในระยะทางใกล้ ๆ นี้ ผมเห็นเทียนหลายเล่มปักอยู่ดูเหมือนเปลวไฟกำลังเต้นระบำ ไกด์พาเราเดินไปที่เทียนอย่างเงียบ ๆ เทียบตั้งอยู่บนโต๊ะที่มีผ้าสีขาวคลุมบนพื้นทราย ห่างจากคลื่นเพียงไม่กี่ฟุต พนักงานคนนั้นเชิญชวนให้คุมและผมนั่งที่ตะเพียงตัวเดียวในร้านอาหราที่สวยที่สุดในโลกทันทีที่เรานั่งลงพนักงานอีกคนก็นำแชมเปญที่ภรรยาผมโปรดปรานมาเสิร์ฟ ภายใต้แสดงเทียน คิมและผมดื่มอวยพรให้กับตัวเรา
และการเดินทางของเรา ผมไม่เคยรู้สึกรักภรรยาแสนสวยของผมมากเท่านี้มาก่อน เธอเคียงคู่กับผมมาตลอดแม้ในยามลำบาก เราไม่ได้พูดอะไรกันมาก เรานั่งเงียบ ๆ ที่โต๊ะ จับมือกันและถือแชมเปญอีกมือหนึ่ง และเราใช้สายตาบอกกันและกันว่า “ขอบคุณ ผม(ฉัน) รักคุณ” เราทำสำเร็จแล้ว